ในเมื่อความรักของเราทั้งสองคน เบ่งบานเต็มที่ แถมถึงวัยอันสมควร ที่จะสละโสดกันได้แล้ว เหลือแค่เพียงการ “Propose” ชวนลงจากคานเท่านั้น การ “วางแผนจัดงานแต่งงาน” ตั้งแต่เนิ่น ๆ นั้น จะสามารถทำได้หรือไม่? น่าจะเป็นอีกหนึ่งคำถาม ที่อยู่ในใจคู่รักหลาย ๆ คู่

หากเราพูดคุยตกลงกับ “ว่าที่” ของเราแล้ว การ “วางแผนจัดงานแต่งงาน” ล่วงหน้าตั้งแต่ปีมะโว้นั้น ไม่ถือเป็นเรื่องที่ผิด หรือทำไม่ได้เลยเสียทีเดียว เพียงแต่ว่าการวางแผนบางอย่าง อาจจะต้องการกำหนดเวลาที่ชัดเจน เช่น การจองสถานที่ การนัดคิวช่างภาพ และช่างแต่งหน้า เป็นต้น

สำหรับธีมงานสามารถเดินหน้าหารือกันได้เลย แต่ด้วยขอบเขตของเวลาที่กว้างมาก ๆ อาจทำให้เกิดอาการโลเล หรือมีเปลี่ยนใจกันบ้าง เวลาพบเห็นธีมอื่นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน แต่ถ้าตั้งมั่นไว้แล้ว ว่าจะจัดงานธีมนี้จริง ๆ การวางแผนล่วงหน้านาน ๆ ก็ถือเป็นข้อดีได้เหมือนกัน เพราะมีเวลาในการหาไอเดียโดยไม่ต้องรีบร้อนมากนัก แถมยังมีโอกาสในการเปรียบเทียบราคาของประดับตกแต่งได้มากมายก่ายกอง

My Wedding To Be จึงขอเป็นเพื่อนช่วยเช็คลิสต์ ว่าขั้นตอนไหนสามารถเดินหน้าได้เต็มที่ และขั้นตอนใดควรชะลอไว้ก่อน เพื่อให้งานของเราออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด (ในแบบฉบับของเรา) นั่นเอง

กำหนดวันจัดงานแต่งงาน
(เรท ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ : สมควรกำหนดวันก่อนอันดับแรก)

แม้ฝ่ายชายจะยังไม่ได้นำแหวนวงงามมาประดับดับบนนิ้วนางของเรา แต่สถานะความรักของเรามั่นคง และพร้อมที่จะเริ่มสร้างครอบครัวเล็ก ๆ เป็นของตัวเองแล้ว เราสองคนสามารถพูดคุยกันได้ว่า วันไหนหรือช่วงไหน ฤกษ์หามยามดีเหมาะสมลงตัวในการจัดงานแต่งงานที่สุด ก็ให้กำหนดวันจัดงานกันก่อนได้เลย เพราะวันจัดงานนี่แหละ จะเป็นด่านแรกในการวางแผนทุกสิ่งอย่างต่อจากนี้

สถานที่จัดเลี้ยง
(เรท ♥ ♥ ♥ ♥: จองก่อนมีสิทธิ์ก่อน)

กรณีได้วันจัดงานที่แน่ชัดล่วงหน้านั้น ถือเป็นข้อดีในการหาสถานที่จัดงานที่ถูกใจ เพราะห้องจัดเลี้ยง ห้องบอลรูม หรือสถานที่สำหรับเช่าจัดงานเลี้ยง มักถูกจอง่วงหน้ากันข้ามปี ยิ่งวันไหนฤกษ์ดี คนแต่งงานกันเยอะ อัตราการแย่งชิงยิ่งสูง หากรู้กำหนดวันจัดงานช้า ก็อาจต้องอกหักกับสถานที่ในฝัน แต่หากทราบวันที่แล้วก็สามารถตระเวนเลือกชมสถานที่จริง และตัดสินใจจับจองกันได้เลย

ธีมงานแต่งงาน
(เรท ♥ ♥ ♥ ♥: คิดเร็วมีเวลาเตรียมพร๊อพ)

เจ้าบ่าว เจ้าสาว ชื่นชอบธีมงานแต่งสไตล์ไหน สามารถพูดคุยหารือกันได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะได้มีโอกาสในการคิดตกแต่งสถานที่ล่วงหน้า มีเวลาประเมินค่าใช้จ่ายสำหรับงบตกแต่งให้คุ้มค่ามากที่สุด มีเวลาเตรียมอุปกรณ์ หรือวางแผนไปถึงการเลือกเวดดิ้งแพลนเนอร์ การหาชุดเพื่อนเจ้าบ่าว-เพื่อเจ้าสาว ที่มีสีสันและรูปแบบสอดคล้องกับธีมงาน ซึ่งการกำหนดธีมงานแต่งนี้ ยังเอื้อประโยชน์ในการเตรียมการล่วงหน้า สำหรับการเลือกของชำร่วย และการออกแบบการ์ดเชิญ ได้อีกด้วย

ชุดเจ้าบ่าว ชุดเจ้าสาว
(เรท ♥ ♥ ♥: ไม่ต้องรีบร้อน แต่ก็ไม่ควรชะล่าใจ)

แม้ว่าการเตรียมตัวล่วงหน้านาน ๆ จะส่งผลดีกับการจัดงาน แต่สำหรับชุดเจ้าบ่าว หรือชุดเจ้าสาวนั้น ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนในการเช่าหรือซื้อล่วหน้าเป็นปี ๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะชะล่าใจเสียจนเกินไป เพราะร้านเช่าชุด หรือตัดชุด ก็ต้องทำงานตามคิวเช่นกัน

แนะนำช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเตรียมหาชุด ควรอยู่ในระยะ 3-6 เดือน ก่อนวันงาน (ระยะเวลาที่ควรตัดสินใจ อาจขึ้นอยู่กับความต้องการ ว่าจะ เช่า เช่าตัด หรือตัด)

สิ่งที่สามารถทำได้ล่วงหน้านาน ๆ สำหรับข้อนี้ คือการเลือกแบบชุดที่ชอบเอาไว้ในใจก่อน ไม่ว่าจะเป็นตามอินเตอร์เน็ต หรือนิตยสารต่าง ๆ แล้วก็หาข้อมูลร้านเช่าชุด หรือร้านตัดชุด ว่ามีร้านไหนน่าสนใจ ตั้งอยู่ย่านไหน เดินทางไปอย่างไร พร้อมตั้งงบประมาณเอาไว้คร่าว ๆ ก่อน เมื่อถึงเวลาอันสมควร จึงเข้าไปเลือก และลองชุด เพื่อวัดตัว-ปรับขนาด และลองครั้งสุดท้าย ก่อนสวมจริงในวันงานอย่างสวยสง่า

แหวนหมั้น แหวนแต่งงาน
(เรท ♥ ♥ : )

หากคุณผู้อ่านจัดงานแบบหมั้นเช้าแต่งเย็น สามารถเลือกซื้อแหวนหมั้น และแหวนแต่งงานพร้อม ๆ กันได้ ซึ่งการลือกซื้อแหวน ก็ไม่ต้องรีบร้อนมากนัก สามารถเลือกซื้อได้ในช่วง 1-2 เดือน ก่อนถึงวันงาน เพราะการทำตัวเรือนใช้ระยะเวลาราว ๆ 7 วัน (อ่านการเลือกซื้อแหวนเพชรเพิ่มเติมได้ที่นี่) แต่ถ้าเกิดว่ามีการคุกเข่าขอหมั้นหมายจับจองก่อนเข้าสู่พิธีสมรส ตามแบบฉบับชาวตะวันตก ก็อาจต้องแยกเลือกแหวนหมั้นล่วงหน้าก่อน ส่วนแหวนแต่งงานที่จะใส่คู่กัน ค่อยควงแขนพากันไปเลือก ช่วงใกล้ ๆ วันงานก็ได้

ทั้งนี้ การเตรียมการทั้งหมด เป็นเพียงแนวทางคร่าว ๆ ที่ My Wedding 2 Be นำเสนอ เพื่อเป็นไอเดียในการเตรียมจัดงานแต่งงานให้กับผู้อ่าน แต่อย่างไรก็ดี การจัดงานแต่งงานของแต่ละคู่ ย่อมมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันออกไป ขอให้ทุกคู่สนุกและมีความสุขไปกับการเตรียมวันสำคัญให้ออกมาวิเศษที่สุดนะคะ