ธีมงานแต่งงาน ถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจหลัก ในการกำหนดคอนเซ็ปต์งานฉลองวันวิวาห์ ที่คู่บ่าวสาวส่วนใหญ่ต้องตีลังกาคิดกันหลายตลบ กว่าจะปิ๊งไอเดียในการจัดงาน สำหรับคู่ใดที่กำลังวางแผนสละโสดในช่วงปี 2017 นี้ ลองมาดูกันว่า เทรนด์การจัดงานแต่งงานที่กำลังมาแรง หรือได้รับความนิยมนั้น มีรูปแบบใดกันบ้าง เพื่อนำไปเป็นไอเดียในการประยุกต์และปรับใช้ ให้งานของคุณออกมาสวยงามลงตัว อย่างที่ร่วมกันวาดฝันไว้มากที่สุด
สำหรับเทรนด์ ธีมงานแต่งงาน ยอดนิยมในปี 2017 คู่บ่าวสาวส่วนใหญ่ นิยมจัดงานกันแบบเรียบง่ายมากขึ้น เน้นเป็นงานเล็ก ๆ แต่อบอุ่น แฝงไปด้วยความเก๋ไก๋ ตามสไตล์หนุ่มสาวยุคใหม่ ที่ปรารถนาให้งานดูดีมีคอนเซ็ปต์ ใน Budget ที่พอรับได้ ส่วนรูปแบบการจัดงานแต่ง ที่เรียกได้ว่ามาแรงสุด ๆ เห็นจะเป็นการจัดงาน Outdoor และการเลือกเช่าสถานที่ที่มีการออกแบบไว้เพื่องานจัดเลี้ยง แทนการเช่าห้องบอลรูมของโรงแรมหรูเช่นที่ผ่านมา
ในส่วนของแนว ธีมงานแต่งงาน ที่มาแรงที่สุดเห็นจะเป็นโทนสีธรรมชาติ และการตกแต่งที่เน้นด้วยวัสดุจากธรรมชาติ อาทิ ต้นไม้ ใบไม้ ฟาง ต้นหญ้า ดอกหญ้า หรือความดิบ ๆ แบบลูกทุ่งตะวันตก ฯลฯ ลองมาดูกันว่า 10 ไอเดีย ธีมงานแต่งงาน ยอดนิยม แห่งปี 2017 มีอะไรกันบ้าง
1. “Greenery” ธีมสีเขียวแสนสบายตา เน้นความเป็นธรรมชาติ
สีเขียว เป็นอีกโทนสีที่กำลังมาแรงสุด ๆ เหมาะกับการจัดงานเลี้ยง Outdoor แต่หากสถานที่จัดงานแต่งเป็นแบบ Indoor ก็ตกแต่งด้วยธีม Geenery ได้เช่นกัน ไม่ถือว่าผิดกติกาแต่อย่างใด การตกแต่งเน้นใช้ ใบไม้ ต้นไม้ และพืชพรรณต่าง ๆ มาประดับสถานที่ เพื่อเนรมิตรให้บรรยากาศภายในงาน เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น สบาย สงบ และเป็นกันเอง
นอกจากสีเขียวแล้ว การจัดงานแต่ง ในโทนสีดังกล่าว ยังสามารถแซมด้วยสีต่าง ๆ ได้เช่นกัน อาทิ สีขาว สีน้ำตาล และสีเทาหรือหากใช้เป็นสีอื่น ๆ ในกลุ่มเอิร์ธโทน ก็สวยงามไม่แพ้กัน แต่ต้องพึงระวังการเลือกของประดับตกแต่งด้วยโทนสีฉูดฉาด อาทิ ส้มจี๊ด หรือ แดงแจ๋ เพราะอาจดึงจุดสนใจของสายตา และทำให้หลุดธีม Greenery ไปได้
2. “Garden” ธีมจัดเลี้ยงในสวน ขนาดกะทัดรัด เน้นคนสำคัญในชีวิต
ปัจจุบันนี้ การจัดงานเลี้ยงกลางแจ้ง เป็นที่นิยมในหมู่คู่บ่าวสาวยุคใหม่ ธีม Garden หรือ การจัดงานในสวน จึงเป็นตัวเลือกสุดฮอต โทนสีที่คู่รักส่วนใหญ่เลือกใช้ชูโรงในการตกแต่ง มักเป็นสีโทนสว่าง อาทิ เขียว ชมพู โอลด์โรส ม่วง ฟ้า เหลือง หรืออื่น ๆ ตามแต่ชอบใจ
หัวใจสำคัญของการจัดงานแต่ง ในธีม Garden คือการจำลองบรรยากาศของงาน ให้มีความอบอุ่น เป็นกันเอง เพราะส่วนใหญ่แล้ว สถานที่ในเมืองกรุงที่สามารถจัดงาน Outdoor ได้นั้น มักรองรับแขกได้ราว 100-200 คน รูปแบบของงานอาจจะมีกลิ่นอายของ Western Country ดูเก๋ ๆ เหมือนงานเลี้ยงฝั่งชาติตะวันตก
3. “Barn” ธีมโรงนา ชูความเป็นชนบท ในบริบทอันเก๋ไก๋
คู่รักบางคู่ชื่นชอบกลิ่นอายแบบลูกทุ่ง ๆ อาจเลือกจัดงานในธีมโรงนา จัดหาที่นั่งเป็นมัดฟาง ประดับไฟปิงปองเป็นระย้า ส่องสว่างสวยงามในยามพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า หรือหากสามารถหาสถานที่ที่เป็นโรงนาจริง ๆ ก็อาจได้บรรยากาศไปอีกแบบ เพราะการจัดงานเลี้ยงในโรงนา ไม่ได้ดูเฉิ่มเชยแต่อย่างใด ออกจะดูแปลกใหม่ ให้อารมณ์เก๋ไก๋เสียด้วยซ้ำ
Highlight ในงาน อาจเป็นคู่บ่าวสาว ควงแขวนกันมาเปิดฟลอร์ ก่อนเปิดโอกาสให้บรรดาแขกเหรื่อทั้งหลาย มาวาดลีลาและลวดลายกันบ้าง เสริมสร้างบรรยากาศสนุก ๆ และเชื่อมสัมพันธ์กันระหว่างญาติฝั่งเจ้าบ่าว และญาติฝั่งเจ้าสาว ได้เป็นอย่างดี
4. “Vintage” ธีมวินเทจ คลาสิกอ่อนหวาน เหนือกาลเวลา
ธีมวินเทจ เป็นอีกธีมที่นิยมในการจัดงานแต่งในช่วง 3-5 ปีมานี้ และยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะความวินเทจ คือความคลาสิกอันแสนอ่อนหวาน เหนือกาลเวลา และที่สำคัญคือ เป็นธีมที่ถูกอกถูกใจของผู้หญิงส่วนมาก เป็นธีมในฝันของว่าที่เจ้าสาวหลาย ๆ คน แน่นอนว่า ว่าที่เจ้าบ่าวผู้ใจกว้าง ย่อมเปิดใจให้ฝ่ายหญิง เป็นผู้กำหนดหรือคิดธีมงานนั่นเอง
การจัดงานแต่งธีมวินเทจ มักตกแต่งกันในสไตล์ Shabby Chic หรือมีกลิ่นอายคันทรีนิด ๆ แบบ English Country หรือ Cottage Style บรรดาพร็อพของตกแต่ง นิยมนำบานประตู หน้าต่าง ตู้ โต๊ะ ตั่ง เตียง มาประดับภายในงาน ส่วนโทนสีมักเน้นเป็นโทนพาสเทลหวาน ๆ นั่นเอง
5. “Neutral” ธีมโทนสีกลาง สร้างความโดดเด่นให้งานแลดูชิค ๆ
กลุ่มโทนสีกลางส่วนใหญ่ จะนิยมเป็นโทนสีเทา สีอมน้ำตาล สีครีม โดยนำกลุ่มสีเหล่านี้ มาตกแต่งโดยเล่นเลเยอร์กับสีอื่น ๆ ในโทนเดียวกันที่เข้มกว่า เช่น เทาอ่อน เล่นกับ สีเทาชาร์โคล หรือ ครีม-น้ำตาล เล่นกับ สีดาร์คช็อคโลแกต เป็นต้น ซึ่งการเล่นกลุ่มโทนสีกลางนี้ มอบความรู้สึกหรูหรามีระดับ
คู่บ่าวสาวที่ชอบตกแต่งสไตล์คุมโทน สามารถนำเอาไอเดียนี้ ไปปรับใช้กับการเลือกของประดับต่าง ๆ ภายในงานจัดเลี้ยงได้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสีผ้าปูโต๊ะ ผ้ารองจาน สีจานชาม แก้วน้ำ รวมถึงการคุมโทนสีดอกไม้ หรือ ชุดเพื่อนเจ้าสาว เป็นต้น
6. “Watercolor” ธีมสีน้ำ พลิ้วไหวสวยงาม มีความโมเดิร์น
การความพริ้วไหวของลายเส้นสีน้ำ อันเกิดจากการตวัดปลายพู่กัน นับเป็นอีกหนึ่งความสวยงามของสีสัน ซึ่งมีความโมเดิร์นทันสมัยอยู่ในตัว ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาว ลองเลือกของตกแต่ง ที่ทำจากงานพิมพ์ลายสีน้ำ มาใช้เป็นโทนหลักของงานแต่งงาน ตั้งแต่การ์ดเชิญ สีผ้ารองจาน ป้ายสำคัญต่าง ๆ ตลอดจน Backdrop หรือฉากหลังสำหรับถ่ายรูป จะทำให้ธีมงานของคุณดูโดดเด่นมีสไตล์
สำหรับธีมสีน้ำนี้ ไม่ได้มีการกำหนดโทนสีตายตัว โดยสามารถเลือกกลุ่มสีตามที่คู่บ่าวสาวชื่นชอบได้ เพราะการนำกลุ่มสีเหล่านั้น มาละเลงรวมกัน สามารถสร้างเอกลักษณ์ และความแตกต่างได้อย่างไม่สิ้นสุด
7. “Boho” ธีมโบโฮ โอ้โห โก้จัง
ธีมโบฮีเมียน ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความเก๋ไก๋ ของเครื่องแต่งกาย ของใช้ ของประดับ ของชนเผ่ายิปซี แลดูมีความเซอร์ แต่โดดเด่นสะดุดตาด้วยสีสันสดใส เพราะความมีเสนห์ของสไตล์โบฮีเมียน คือความสวยงามที่ไม่ลงตัว การเลือกของประดับสำหรับตกแต่งภายในงานค่อนข้างหลากหลาย เพราะชาวยิปซีไม่ได้ยึดติดกับอะไรมากนัก ข้าวของส่วนใหญ่เน้นไปทางสีสันสด ๆ มีชายกรุยกราย เลือกใช้ผ้าพิมพ์ลายกราฟฟิคเทห์ ๆ ผ้าลูกไม้ ไหมพรมถัก หรือลายดอกไม้ฟุ้งฟริ้ง ก็ได้เช่นกัน
ส่วนของเจ้าสาวนั้น อาจปล่อยผมยาวให้คลอไปกับบ่า เซ็ตให้มีวอลลุ่มสักนิด แลดูเซอร์ ๆ ปนอ่อนหวานแบบไม่ได้ตั้งใจ ส่วนรองเท้านั้นจะเปลี่ยนเป็นบูทหนังสุดเท่ห์ แทนส้นสูงแหลมปรี๊ด ก็เข้าท่าดีเหมือนกัน
8. “Forest” ธีมป่าเขียว เดินเที่ยวในดงไพร
ธีม Forest ก็ถือว่าใกล้เคียงกับ Greenery แต่ต่างกันตรงที่ Greenery จะเน้นใช้พืชพรรณสีเขียวในการประดับตกแต่งภายในงาน และพยายามคุมโทนให้งานเขียวชะอุ่มไปด้วยความเป็นธรรมชาติ ส่วนธีม Forest นี้ เสมือนการยกงานเข้าไปจัดในป่ากันเลยทีเดียว
หากบ่าวสาวคู่ใด ชื่นชอบบรรยากาศของป่าเขา และความเป็นธรรมชาติ แล้วสามามารถหาสถานที่จัดงานได้นั้น ก็นับว่าโชคดีสุด ๆ เพราะไม่ใช่ว่าเห็นป่าข้างทาง แล้วจะโมเมเข้าไปกางโต๊ะตั้งเก้าอี้จัดงานได้เสียที่ไหน ลองนำไอเดียนี้ไปปรับใช้ดู รับรองว่างานแต่งของคุณ จะเป็นอีกหนึ่งโมเมนต์สำคัญของชีวิตที่น่าจดจำเลยทีเดียว
9. “Fairy Tale” ธีมเทพนิยาย ฝันนี้ยังไม่สาย ขอเป็นเจ้าหญิงสักครั้ง
ในวัยเด็ก สาว ๆ เกือบทุกคน ต้องเคยผ่านหูผ่านตาเกี่ยวกับนิทานเจ้าหญิงเจ้าชายกันมาแล้ว และก็คงไม่ผิด หากสักครั้งในชีวิตจะปรารถนาให้งานแต่งของตนเอง งดงามอลังการเสมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกเทพนิยาย เป็นเจ้าหญิงสวมชุดราตรีแสนงามสีขาว และมีคนรักยืนเคียงข้างสวมบทบาทของเจ้าชาย
บรรยากาศการตกแต่งภายในงานเน้นความหรูหรา จะปูทางเดินด้วยพรมแดง หรือกลีบดอกไม้ ก็สุดแล้วแต่ความชื่นชอบของแต่ละบุคคล การจัดดอกไม้บนโต๊ะอาหาร หากเลือกใช้แจกันทรงสูง ก็จะช่วยเสริมสร้างความโดดเด่นได้ไม่น้อย อย่างไรก็ดี คู่บ่าวสาวอาจเลือกเทพนิยายเรื่องโปรดมาสักเรื่อง แล้วเนรมิตรงานแต่งให้ละม้ายคล้ายกับเทพนิยายเรื่องนั้น ๆ ก็ได้เช่นกัน
10. “Tropical” ธีมความสดใสของดินแดนในเขตร้อน
ธีม Tropical เหมาะประยุกต์ใช้กับงานแต่งริมทะเลในช่วงฤดูร้อน แล้วเลือกดอกไม้ตกแต่งภายในงานเป็นดอกไม้เขตร้อน โทนสีสดใส อาทิ เฟื่องฟ้า กล้วยไม้ ลีลาวดี สุพรรณิการ์ และชบา เป็นต้น เพิ่มความมีชีวิตชีวาสดใสซาบซ่าให้กับงาน
เครื่องดื่มอาจจัดเตรียมน้ำผลไม้ตามฤดูกาลไว้ ให้แขกสามารถบริการตนเองได้ยามกระหาย นอกจากนี้ อาจเตรียมเกมการละเล่น ที่เข้ากับบรรยากาศของงาน ให้แขกได้ร่วมสนุก ยกตัวอย่างเช่น เกมลอดไม้ หรือจัดการแสดงโฃว์สนุก ๆ อย่างการควงไฟ พ่นไฟ ระบำฮาวาย ก็น่าสนใจไม่น้อย สำหรับธีมการแต่งกาย อาจชวนให้ผู้ร่วมงานแต่งกายสบาย ๆ สวมเสื้อฮาวาย มีมาลัยกล้วยไม้คล้องคอ ก็น่ารักดีเหมือนกัน
หากเพื่อนๆ ยังคิดพร็อพสำหรับตกแต่งงานแต่งงานไม่ออก ลองมาดูไอเดียดีๆ ได้ที่บทความ : ‘พร็อพถ่ายภาพงานแต่ง สวย เก๋ เพิ่มสีสันให้งานแต่งงาน’
Images via Pinterest
Source : Elegant Wedding Invites